หากพูดถึงงานบ้าน เด็กๆสมัยนี้อาจจะห่างไกลจากคำนี้มาก เพราะเก็กสมัยใหม่นอกจากจะมีคุณแม่ พี่เลี้ยง แม่บ้านคอยดูแลแล้ว ยังต้องแข่งขันกับเด็กด้วยกันอีก ไม่ว่าจะต้องเรียนพิเศษ เรียนเสริมทักษะ เพื่อเตรียมสอบ จนทำให้งานบ้านเป็นเรื่องไกลตัวเลยค่ะ แต่การสอนให้ลูกมีส่วนร่วมในงานบ้านเป็นโอกาสที่คุณพ่อแม่ได้ฝึกให้ลูกๆ รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ฝึกความรับผิดชอบ การแบ่งงานบ้านให้เหมาะสมตามอายุและความสามารถ เป็นการสอนให้ลูกรู้จักการพัฒนาตนเองหลายๆด้าน และยังเป๋นการใช้เวลาร่วมกันอีกด้วยค่ะ โดยเริ่มต้นจากการงานเล็กๆน้อยก่อนนะคะ แต่ก็อย่าลืมออกไปเรียนรู้กับกิจกรรมด้านนอกด้วยนะคะ
สำหรับลูกวัย 2 – 3 ขวบ
ควรเริ่มจาก ฝึกให้เด็กเก็บของเล่นใส่ตะกร้าหรือกล่องใส่ของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ เก็บหนังสือเข้าที่ ช่วยวางช้อนส้อม ผ้าเช็ดปาก ผ้าเช็ดมือ บนโต๊ะอาหาร สอนให้เขานำผ้าที่จะซักใส่ลงตะกร้า และให้เขาลองหัดพับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ และปลูกฝังวินัยทิ้งขยะให้ลงถัง
สำหรับลูกวัย 4-6 ขวบ
ลูกวัยอนุบาลควรฝึกให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน เริ่มจากการให้อาหารสัตว์เลี้ยง และปลูกฝังการสร้างวินัยในตนเองด้วยการ เป็นผู้ช่วยคุณแม่ทำงานบ้านง่ายๆ อย่าง เก็บเครื่องนอนของตัวเอง ที่นอน หมอน พับผ้าห่ม เก็บของเล่นเข้าที่ และฝึกความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เช่น ให้ลูกเป็นคนเตรียมอาหารว่างหรือขนมคบเคี้ยว หรือหลังรับประทานอาหารเสร็จ อาจให้ลูกช่วยเก็บจาน แก้วน้ำ และทำความสะอาดโต๊ะอาหาร
สำหรับลูกวัย 6-7 ขวบ
เมื่อถึงวัยนี้ลูกเริ่มโตและมีความรับผิดชอบมากขึ้น คุณพ่อ คุณแม่ อาจให้ลูกรับผิดชอบทำความสะอาดบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น เก็บกวาดบ้าน เก็บผ้า พับผ้า เปลี่ยนกระดาษชำระในห้องน้ำ ช่วยคุณแม่ล้างถ้วยชามเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หรืออาจจะให้ลูกเป็นผู้ช่วยตัวน้อย ช่วยคุณแม่ลงมือทำอาหาร ซึ่งอาจจะเริ่มจากขั้นตอนง่ายๆ เช่น ให้ลูกช่วยปอกเปลือกมันฝรั่ง หรือ แครอท หรือลงมือทำเมนูง่ายๆ อย่าง สลัด
สำหรับลูกวัย 8- 11 ปี
เมื่อถึงวัยนี้ควรให้ลูกรับผิดชอบตัวเองได้มากขึ้น เช่น มอบหมายให้ลูก รับผิดชอบงานบ้าน ที่ยุ่งยากมากขึ้น เช่น ล้างจาน ซักผ้า ตากผ้า พับผ้า ตลอดจนดูแล จัดเก็บห้องนอนของตัวเองด้วย รดน้ำต้นไม้ เดินไปเก็บจดหมาย หรือ แผ่นปลิวโฆษณาที่เสียบไว้ที่ประตูรั้ว หรือช่วยจดข้อความที่ฝากไว้ ช่วยคุณแม่ทำอาหารคั่ว
แต่ถ้าหากว่างานบ้านที่มอบหมายให้ลูกทำนั้น จบลงด้วยความ เลอะเทอะ ปั่นป่วน และลูกทำไม่สำเร็จ คุณพ่อ คุณแม่อาจรู้สึกอยากจะจัดการงานนั้นด้วยตัวเอง เดี๋ยวค่ะ! พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าวก่อนนะคะ ความอดทนของ คุณพ่อ คุณแม่และใช้วิธีแนะนำลูกให้ทำงานนั้นได้สำเร็จ จะเป็นวิธีที่ดีกว่า และได้รับผลตอบแทนต่างกันนะคะ เพราะการที่เราปล่อยให้เขาได้ลงมือทำ ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้ มีผลต่อการเรียนรู้ของเขาเมื่อโตขึ้น เขาจะสามารถช่วยเหลือตัวเอง และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการฝึกให้ ทำงานบ้านอะไรเลย อีกทั้ง งานบ้าน ยังเป็นการฝึก ระเบียบวินัย และความรับผิดชอบให้ลูกได้ดีทีเดียวค่ะ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : freepik.com และ thefinder.com.sg
Leave a reply